มันส์แน่นอน! เผยโปรแกรมทุกคู่ในศึก
"ONE : Kings of Courage" 20 ม.ค.นี้
ณ จาการ์ต้า อินโดนีเซีย

วัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE Championship) บริษัทผู้ผลิตสื่อรายการกีฬาที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกของเอเชีย เผยโปรแกรมของทุกคู่ในรายการ "ONE : Kings of Courage" ที่เตรียมระเบิดศึกกันในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ณ จาการ์ต้า คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ประเทศอินโดนีเซีย
โดยคู่เอกของรายการจะเป็นการพบกันระหว่างสองสาวจอมแกร่ง ทิฟฟานี่ เตียว (Tiffany Teo) จากสิงคโปร์ กับ สง จิ้ง หนาน (Xiong Jing Nan) จากจีน โดยผู้ชนะจะสร้างประวัติศาสตร์ได้เข็มขัดแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวทหญิงของ ONE ไปครองเป็นคนแรกทันที
ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานบริษัท วัน แชมเปี้ยนชิพ กล่าวว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ ทิฟฟานี่ เตียว และ สง จิง หนาน จะได้พบกันในศึก ONE : Kings of Courage ที่จาการ์ต้า ซึ่งเป็นการแข่งขันเวทีแรกของเราในปี 2018"
"นักกีฬาหญิงสองคนนี้คือแบบอย่างของศิลปะการป้องกันตัวระดับสูงโดยแท้ พวกเธอจะสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆทุกคนที่ได้ชม และสุดท้ายแล้ว เราจะได้แชมป์โลกหญิงคนแรกในรุ่นสตรอว์เวทของ ONE ด้วย"
"นอกจากนี้ ในคู่รองของรายการ สเตเฟอร์ ราฮาร์เดียน (Stefer Rahardian) นักกีฬาขวัญใจชาวอินโดนีเซีย ที่จะพบกับ มูฮัมหมัด อิมราน (Muhammad Imran) ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะคนชนะจะได้สิทธิ์ไปชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทต่อไป"

ทิฟฟานี่ เตียว สาวนักกีฬาจากสิงคโปร์ คู่เอกของรายการกล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทาง ONE Championship ที่เชื่อมั่นในตัวฉัน ฉันฝึกซ้อมอย่างหนักมาโดยตลอด และผลงานที่ผ่านๆมาก็พูดแทนทุกอย่างได้เป็นอย่างดี"
"ไฟต์ล่าสุดที่ฉันชนะ ฉันยังรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีเท่าไร ในฐานะนักกีฬาด้านศิลปะป้องกันตัว ฉันพยายามพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไฟต์ที่จะถึงนี้มีความหมายกับฉันมาก ฉันตื่นเต้นจริงๆที่จะได้กลับขึ้นสังเวียน ขอขอบคุณ สง จิ้ง หนาน ด้วย ที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้โชว์ทักษะของตัวเองอีกครั้ง ไฟต์นี้สำคัญต่อแฟนๆชาวสิงคโปร์ และฉันจะเอาเข็มขัดกลับบ้านเพื่อพวกคุณให้ได้"
ด้าน สง จิ้ง หนาน นักกีฬาสาวแดนมังกร วัย 29 ปี กล่าวว่า "ฉันขอขอบคุณ ONE Championship สำหรับโอกาสนี้ ฉันรู้สึกยินดีที่จะได้ประลองกับทิฟฟานี่ ถือเป็นเกียรติสำหรับตัวฉันและประเทศจีนมาก"
"ฉันฝึกซ้อมและฝันอยากเป็นแชมป์โลกมานานแล้ว ตอนนี้ฉันพร้อมเจอทุกคน ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทำให้ความฝันในการเป็นแชมป์โลกเป็นจริงเสียที"

สำหรับ ทิฟฟานี่ เตียว ถือเป็นดาวจรัสแสงแห่งวงการศิลปะป้องกันตัวในรุ่นสตรอว์เวทหญิงของ ONE Championship สถิติที่ผ่านมาของเธอชนะรวด 7 ไฟต์ ไม่เคยแพ้ใคร เป็นการชนะซับมิสชั่น 3 ไฟต์, ชนะน็อค 2 ไฟต์ และชนะคะแนน 2 ไฟต์
เธอเริ่มต้นด้วยการเล่นเทควันโด ก่อนจะผันตัวมาฝึกชกมวยและมวยไทย แล้วพัฒนาสู่สังเวียนกรงบนเวที ONE Championship ในที่สุด
ไฟต์ล่าสุดของเธอสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมอย่างมาก เมื่อเธอชนะซับมิสชั่น ปูจา โทมาร์ (Puja Tomar) นักกีฬาอินเดีย ด้วยการจับล็อกแขนได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ยกแรกของการแข่งขันเท่านั้น และตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะช่วงชิงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวทกับ สง จิ้ง หนาน
ด้าน สง จิ้ง หนาน สาวนักบู๊จากเมืองซานตง ถือเป็น 1 ใน 3 ยอดฝีมือของวงการศิลปะป้องกันตัวฝ่ายหญิงของเมืองจีน สถิติในอาชีพของเธอนั้นยอดเยี่ยม เมื่อชนะ 13 ไฟต์ และแพ้คู่แข่งแค่ไฟต์เดียวเท่านั้น
สงเริ่มต้นอาชีพของเธอด้วยการชกมวย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากพ่อของเธอเอง ล่าสุดในปี 2017 เธอสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันบราซิเลียน ยูยิตสู ของประเทศจีนได้ด้วย
สำหรับไฟต์ล่าสุดของเธอบนเวที ONE เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอเผด็จศึกน็อคเอาท์ เอพริล โอเซนิโอ (April Osenio) ยอดวูซูสาวชาวฟิลิปปินส์ได้ตั้งแต่ยกแรก ทำให้เธอได้รับโอกาสชิงแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวทของ ONE Championship นั่นเอง

คู่รองของรายการ สเตเฟอร์ ราฮาร์เดียน นักกีฬาศิลปะป้องกันตัวระดับแนวหน้าของอินโดนีเซีย สร้างความประทับใจตั้งแต่ไฟต์แรกใน ONE Championship ในศึก ONE : Titles & Titans เมื่อสิงหาคม 2016 ด้วยการชนะ โยธา ฮูทากาลัง (Yotha Hutagalung) และ เฮนดริก วิจาย่า (Hendrick Wijaya) ด้วยท่าซับมิสชั่นล็อกคอตั้งแต่ยกแรกทั้งคู่
นับตั้งแต่นั้นมา ราฮาร์เดียนก็เก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง 3 ไฟต์รวดบนสังเวียนกรง ซึ่งไฟต์ล่าสุดเจ้าตัวโชว์ฟอร์มดุจับ ซิม บุนสรัน (Sim Bunsrun) นักกีฬากัมพูชา ซับมิสชั่นด้วยการล็อกคอได้ตั้งแต่ยกแรก รักษาสถิติไร้พ่าย ชนะรวด 5 นัด จนได้มีโอกาสดวลกับ มูฮัมหมัด อิมราน เพื่อแย่งตั๋วไปชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทในที่สุด

มูฮัมหมัด อิมราน เจ้าของฉายา "ไอ้แมงมุม" ยอดฝีมือศิลปะป้องกันตัวจากปากีสถาน ที่เพิ่งจะปรากฏตัวครั้งแรกใน ONE Championship อดีตเคยเป็นเจ้าของแชมป์รุ่นสตรอว์เวทของเวที PFC มาก่อน โดยเจ้าตัวมีความถนัดด้านคาราเต้และทักษะการจู่โจมคู่แข่ง
นักกีฬาวัย 26 ปีได้รับโอกาสในการสร้างความสั่นสะเทือนในรุ่นฟลายเวท เพื่อก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น และการประเดิมในศึก ONE ครั้งนี้สำคัญมาก เพราะมีตำแหน่งผู้ท้าชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทเป็นเดิมพัน

ในรุ่นมิดเดิ้ลเวท วิตาลี่ บิ๊กแดช (Vitaly Bigdash) นักกีฬาวัย 33 ปีจากรัสเซีย ที่ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในยอดฝีมือพรสวรรค์ที่สุดคนนึงของโลก โดยเมื่อปี 2015 เปิดตัวบนเวที ONE ครั้งแรกก็สามารถล้ม อิกอร์ สวิริด (Igor Svirid) ด้วยการน็อคเอาท์ คว้าแชมป์โลกรุ่นมิดเดิ้ลเวทได้แบบประวัติศาสตร์ ONE ต้องจารึก ก่อนสุดท้ายเมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา จะแพ้คะแนน อ่อง ลา เอ็น ซาง (Aung La N Sang) นักกีฬาเมียนมาร์ เสียเข็มขัดแชมป์โลกไป

สำหรับคู่แข่งของบิ๊กแดช ได้แก่ เลอันโดร อไทเดส (Leandro Ataides) นักกีฬาจากริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล วัย 31 ปี เจ้าของสถิติชนะ 10 แพ้ 3 ถือเป็นนักกีฬาที่มีพลังหมัดรุนแรง จาก 10 ไฟต์ที่ชนะ มีถึง 7 ไฟต์ที่คว้าชัยแบบไม่ครบยก โดยไฟต์ล่าสุดของเจ้าตัวคือการชนะคะแนน มิเชล พาสเตอร์นาค (Michal Pasternak) ส่วนไฟต์ก่อนหน้านั้น อไทเดส น็อก มูฮาเหม็ด อาลี (Mohamed Ali) ด้วยท่าเข่าลอย จนได้รับการยกย่องให้เป็น สุดยอดการน็อกแห่งปี 2016 ของ ONE เลยทีเดียว

อีกคู่ที่น่าติดตามอย่างมาก คือการแข่งขันในกติกาจับล็อคระหว่าง มารัต กาฟูรอฟ (Marat Gafurov) อดีตแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวตของ ONE เจ้าของสถิติชนะ 15 แพ้แค่ไฟต์เดียว ซึ่งนั่นก็คือไฟต์ล่าสุดเมื่อสิงหาคม 2017 ที่เสียเข็มขัดแชมป์ให้ มาร์ติน เหงียน (Martin Nguyen) โดยกาฟูรอฟเป็นแชมป์โลกเมื่อปี 2015 หลังชนะซับมิสชั่น นารันทุนกาลัก จาดัมบ้า (Narantungalag Jadambaa) ก่อนป้องกันแชมป์ได้อีก 2 ไฟต์ แล้วมาพลาดท่าโดนหมัดน็อกของเหงียนนั่นเอง

ซึ่งคู่แข่งของกาฟูรอฟก็ไม่ใช่ใคร เป็นยอดฝีมืออีกคนของวงการอย่าง ชินยะ อาโอกิ (Shinya Aoki) จากญี่ปุ่น ดีกรีอดีตแชมป์โลกรุ่นไลต์เวทของ ONE โดยอาโอกิวัย 34 ปีเป็นบราซิเลียน ยูยิตสู สายดำ ตระเวนคว้าแชมป์รายการต่างๆมาแล้วทั่วโลก นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นยูโดสายดำและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาศิลปะป้องกันตัวที่มีพลังโจมตีรุนแรงที่สุดคนนึง การพบกันระหว่างกาฟูรอฟและอาโอกินี้จึงเป็นสุดยอดไฟต์อย่างแท้จริง

ในรุ่นแบนตั้มเวท จอมเก๋าเจ้าถิ่น ซูโนโต้ เจ้าของฉายา Terminator ( “The Terminator” Sunoto) อดีตแชมป์รายการ WKF ของอินโดนีเซีย ผู้ผสมผสานคิกบ็อกซิ่ง, คาราเต้ และยูยิตสู ได้อย่างลงตัว โดย 6 ไฟต์หลังสุดของเจ้าตัวเป็นชัยชนะถึง 4 ไฟต์ นักกีฬาวัย 32 ปีผู้นี้ได้ชื่อว่าเป็นจอมเกรี้ยวกราดคนนึงของวงการ
โดยคู่แข่งของซูโนโต้ ได้แก่ ริน สาโรธ (Rin Saroth) วัย 24 ปีจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่มีดีกรีจากเวทีบ้านเกิดมาโชกโชน เจ้าตัวเปิดตัวครั้งแรกกับ ONE Championship เมื่อเดือนธันวาคม 2015 ในศึก ONE : Kingdom of Khmer ด้วยการชนะซับมิสชั่นล็อกแขน มิสชั่น อาลี ตั้งแต่ยกแรก และนี่จะเป็นโอกาสที่ดีในการขึ้นเวที ONE อีกครั้ง ด้วยการดวลกับรุ่นพี่อย่างซูโนโต้

รุ่นแบนตั้มเวท ยูซุป ซาดูลาเยฟ ฉายา Maestro (Yusup “Maestro” Saadulaev) เจ้าของสถิติชนะ 16 แพ้ 4 เสมอ 1 จากรัสเซีย ถือเป็นจอมดีเดือดอีกคนของวงการศิลปะป้องกันตัว แถมยังเป็นแชมป์โลกการต่อสู้คอมแบต แซมโบ ด้วย ได้รับการยอมรับว่ามีเทคนิกการโจมตีขั้นสูง รวมไปถึงการซับมิสชั่นที่น่ากลัวด้วยชัยชนะถึง 11 ไฟต์เลยทีเดียว

ด้านคู่แข่ง มาซาคาซู อิมานาริ (Masakazu Imanari) จากญี่ปุ่น จอมเก๋าอีกคนที่คร่ำหวอดในวงการมานานกว่า 2 ทศวรรษ อิมานาริเป็นหนึ่งในนักกีฬาพรสวรรค์ที่สุดคนนึงของแดนซามูไร มีจุดเด่นที่การซับมิสชั่น จากชัยชนะ 36 ไฟต์ เป็นการปราบคู่แข่งด้วยการล็อกถึง 25 ไฟต์เลยทีเดียว
รุ่นสตรอว์เวตฝั่งหญิง อิรีน่า คีเซโลว่า ฉายา Delsa (Iryna “Delsa” Kyselova) นักกีฬาสาวสวยจากยูเครนวัย 22 ปี เจ้าของสถิติชนะ 11 แพ้ 2 จะประเดิมเวที ONE Championship เป็นครั้งแรก โดย 4 ไฟต์ล่าสุดของเธอชนะคู่แข่งแบบไม่ครบยกมารวด ซึ่งถ้าเจาะให้ลึกลงไป 9 จาก 10 ไฟต์ที่ชนะในอาชีพของเธอ คู่แข่งล้วนอยู่บนเวทีไม่ครบยกทั้งสิ้น ด้วยการ 7 ซับมิสชั่นและ 2 น็อกเอาท์

โดยคู่แข่งของสาวยูเครนได้แก่ เมี่ยว จี หรือ Supermom (Miao Jie “Supermom”) นักกีฬาหญิงวัย 30 ปีจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เจ้าของสถิติชนะ 3 แพ้ 1 เป็นอีกหนึ่งสาวพรสวรรค์ด้านพลังโจมตี ซึ่งเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาเพิ่งได้รับเหรียญทองแดงใน
ศึก IBJJ World Championships ที่สหรัฐอเมริกามาด้วย โดยไฟต์ล่าสุด เมี่ยว จี เอาชนะ อามิร่า

ฮาฟิโซวิค (Amira Hafizovic) คู่แข่งจากออสเตรเลียด้วยการซับมิสชั่นล็อกแขน เพียงแค่ 45 วินาทีของยกแรกเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการชนะซับมิสชั่นที่เร็วสุดในประวัติศาสตร์ ONE ฝั่งผู้หญิงด้วย
รุ่นเฟเธอร์เวท วิคตอริโอ เซนดุก ฉายา Indra (Victorio “Indra” Senduk) นักกีฬาอินโดนีเซีย อดีตแชมป์ IBC ผู้เชี่ยวชาญวูซูและคิกบ็อกซิ่ง เซนดุกมีอาวุธที่ทรงพลังและสู้ด้วยสไตล์ที่ดุดัน จะลงดวลกับเพื่อนร่วมชาติ โยฮัน มูเลีย เลโกโว่ (Yohan Mulia Legowo)  ที่ประสบการณ์ในแวดวงศิลปะการป้องกันตัวล้นเหลือมากกว่า 15 ปี เจ้าของสถิติชนะ 8 เป็น 5 ซับมิสชั่นและ 3 น็อกเอาท์ แพ้ 6 เป็นนักกีฬาสไตล์เก่งรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น มวยปล้ำ, ยูโด, มวย และกังฟู ทำให้การพบกันของสองคนนี้น่าติดตามไม่น้อย
อีก 3 คู่ประกอบรายการที่น่าสนใจไม่แพ้คู่ถ่ายทอดสด ประกอบไปด้วย

รุ่นฟลายเวท สองนักกีฬาอินโดนีเซียลงดวลกันเอง ริสกี้ อูมาร์ (Riski “Kong” Umar)  พบ อาร์โนล บาตูบาร่า (Arnol Batubara) ฝ่ายแรกเชี่ยวชาญมวยไทยและเทควันโด ประเดิมไฟต์แรกในอาชีพด้วยการน็อกเพื่อนร่วมชาติ อาดิ นูโกรโฮ (Adi Nugroho) ตั้งแต่นาทีที่สองของยกแรก เมื่อเดือนกันยายน 2017 ส่วนฝ่ายหลังจะเปิดตัวใน ONE เป็นไฟต์แรก เก่งด้านวูซูและมีเทคนิกที่แพรวพราว

รุ่นสตรอว์เวท เรเน่ คาตาลัน (Rene Catalan) จากฟิลิปปินส์ จะพบกับ เผิง  ซือ เหวิน (Peng Xue Wen) จากจีน ฝ่ายแรกถือเป็นจอมเก๋าคนนึงของวงการ เคยได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2006 จากกีฬาวูซูมาแล้ว ส่วนฝ่ายหลังเป็นดาวรุ่งวัย 21 ปี ถนัดมวยปล้ำและบราซิเลียน ยูยิตสู ประเดิมไฟต์แรกกับ ONE ด้วยการชนะน็อค พัท โซดา (Phat Soda) จากกัมพูชา ตั้งแต่ยกแรก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา

ปิดท้ายด้วยฝั่งผู้หญิง รุ่นอะตอมเวท พริสซิล่า เฮอร์ตาติ ลุมบันกาโอล (Priscilla Hertati Lumbangaol) จากอินโดนีเซีย จะลงบู๊กับ ออเดรย์ลอร่า โบนิเฟซ (Audreylaura Boniface) จากมาเลเซีย ฝ่ายแรกมีดีกรีเป็นแชมป์วูซูของแดนอิเหนา ส่วนฝ่ายหลังเป็นเทควันโดสายดำ ถือเป็นไฟต์ที่น่าจะสนุกและเรียกน้ำย่อยให้แฟนๆได้เป็นอย่างดี