มวยหมากรุก หรือ Chess Boxing คือกีฬาที่มีส่วนผสมสุดแปลกระหว่างมวยสากล กับหมากรุกสากล โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องต่อสู้สลับยกกันระหว่างกระดานหมากรุกและเวทีมวย

อีเป รูบิง (Iepe Rubingh) ศิลปินชาวดัตช์ผู้หลงใหล่ในการต่อสู้คือผู้คิดค้นกีฬานี้ ขึ้นในปี 2003 จากแรงบันดาลใจที่ได้รับจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง Froid Equateur ของ Enki Bilal ซึ่งการแข่งขันชิงแชมป์โลกอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในปีเดียวกัน ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม โดยได้รับการรับรองจาก Dutch Boxing Association Dutch Chess Federation และ World Chess Boxing Organization

ในการแข่งขันครั้งนั้น เป็นการพบกันระหว่าง Rubingh ผู้คิดค้นกีฬา กับ Jean Louis Veenstra หลังจากผ่านไป 11 ยก Rubingh กลายเป็นแชมป์โลกคนแรก จากการที่คู่ต่อสู้ใช้เวลาเกินในการเดินหมากรุก

กฏกติกา
มวยหมากรุกประกอบไปด้วยการต่อสู้ทั้งหมด 11 ยก - 6 ยกสำหรับหมากรุก และ 5 ยก สำหรับมวยสากล - โดยจะใช้เวลา 3 นาทีในแต่ละยก

การตัดสินผู้ชนะจะตัดสินจากกรณีดังต่อไปนี้

• น็อคเอาท์ (ในยกมวย)
• น็อคเอาท์ทางเทคนิค (ในยกมวย)
• รุกฆาต (ในยกหมากรุก)
• คู่แข่งขันใช้เวลาเกินกำหนด (ในยกหมากรุก)
• การตัดสิทธิ์จากผู้ตัดสินเมื่อถูกเตือนเกินกำหนด
• คู่แข่งขันขอยอมแพ้
• หากไม่สามารถตัดสินได้ในเวลา ผู้ที่มีคะแนนนำอยู่จะเป็นผู้ชนะ

สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมแข่งขันมวยหมากรุกจะต้องมีทักษะที่ดีทั้งด้าน หมากรุกและด้านมวยสากล โดยจะต้องมีประวัติการต่อสู้ในระดับสมัครเล่น ไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง และการจัดอันดับคะแนนหมากรุกไม่ต่ำกว่า 1,600 (มีวิธีการวัดโดยเฉพาะที่เรียกว่า Elo Rating)

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการแข่งขันคือความเร็ว เนื่องจากมีกรอบเวลาจำกัดที่ ชัดเจน แตกต่างจากการแข่งขันหมากรุกแบบปกติ ทั้งนี้ ผู้ที่จะชนะกีฬามวยหมากรุก ไม่ใช่ผู้ที่เป็นเลิศในทั้งสองกีฬา แต่คือผู้ที่สามารถปรับตัวระหว่างกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายปะทะกับกีฬาที่ต้องใช้ สมองประลอง

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถไปได้ที่ www.chessboxing-global.com และ www.wcbo.org