FIGHT & MARTIAL ARTS

เกร็ดกีฬาบราซิลเลี่ยนยิวยึตสู ตอนที่ 24 : ทำความรู้จักกับ SJJIF องค์กรเพื่อ BJJ สู่โอลิมปิก

16.05.2018

ทำความรู้จักกับ SJJIF องค์กรเพื่อ BJJ สู่โอลิมปิก

ณ จุดนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากีฬาประเภทปล้ำล็อคนั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากกระแสการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA ซึ่งรายการที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือรายการ UFC ซึ่งตระกูล เกรซี่ ใช้เป็นประตูสู่ความสำเร็จอย่างล้นหลาม สำหรับเผยแพร่วิชา บราซิลเลี่ยน ยิวยิสสู หรือ BJJ นั่นเอง

BJJ นั้นถึงแม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการปล้ำล็อค แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นการรวมเทคนิคของรุ่นพี่ทั้งสอง ซึ่งก็คือ มวยปล้ำ และ ยูโด เข้าด้วยกัน แล้วมีกำหนดกติกาเป็นของตัวเอง โดยกติกาของ BJJ นั้นจะแตกต่างจากยูโด ซึ่งจะหยุดหลังจากการทุ่มอิปโป้งลงพื้น ส่วนมวยปล้ำนั้นจะหยุดหลังมีการพิน หรือกดคู่ต่อสู้ไว้ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ BJJ นั้นจะไม่หยุดและจะดำเนินการแข่งต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะทำการซับมิชชั่นคู่ต่อสู้ และเกิดการแท๊ปเอ้าท์ขึ้น ซึ่งตรงนี้เองทำให้มีความสมจริงในการต่อสู้สูง และหลายคนมองเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการแข่ง MMA เป็นอย่างมาก

สมาคมบราซิลเลี่ยนยิวยิสสู Confederação Brasileira de Jiu Jitsu (CBJJ) นั้นก่อกำเนิดในประเทศ บราซิล เมื่อปี 1994 โดย มาสเตอร์ คาลอส เกรซี่ จูเนียร์ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อไปเป็น International Brazilian Jiu-Jitsu Federation (IBJJF) ซึ่งถือเป็นองค์กรใหญ่สุดในวงการ BJJ ในแต่ละการแข่งขันชิงแช้มป์โลกแต่ละครั้งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 2,000 คน ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งใน ทวีป อเมริกา ยุโรป และเอเชีย

ด้วยความที่มีรายได้อย่างมหาศาลอยู่แล้ว IBJJF จึงไม่ได้สนใจที่จะเข้าร่วมหรือผลักดันตัวเองเพื่อเขัาไปสู่การเป็นกีฬานานาชาติ อย่าง โอลิมปิก เอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ ซึ่งจุดนี้เองหลายๆ องค์กรซึ่งมองเห็นผลประโยชน์ตรงนี้ จึงพยายามที่จะตั้งตัวและผลักดันตัวเองเข้าไปให้ได้ โดยประตูด่านแรกนั้นก็คือ ต้องได้รับการบรรจุชื่อเข้าไปอยู่ในสปอร์ตแอคคอร์ด (sport accord) ก่อนนั่นเอง

ในประเทศไทยเราเองตอนนี้คงได้เห็น สมาพันธ์ Ju-Jitsu ได้เพิ่มชนิดกีฬา Newaza เข้ามาเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง โดยทำการยกเอากติกา IBJJF มาทั้งดุ้น เรียกว่า IBJJF แก้กฏอะไรก็แก้ตามทันที ซึ่ง สมาพันธ์ Ju-Jitsu นั้นเดิมทีมีเพียงชนิดกีฬาแค่ประเภท ต่อสู้ (fighting) และ ท่าแสดง (duo) เท่านั้น แต่ด้วยความที่กีฬา BJJ นั้นกำลังเป็นที่นิยม และมีนักกีฬามากมาย ทาง Ju-Jitsu ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ที่สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรต จึงได้ทำการเพิ่มชนิดกีฬาเข้าไปเพื่อหวังจะผลักดันตัวเองเข้าสู่ เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกให้ได้

ในขณะเดียวกันทางฝั่งยุโรปและอเมริการเองก็ไม่น้อยหน้า โดยสมาพันธ์มวยปล้ำโลก ซึ่งเป็นกีฬาโอลิมปิก เอเชี่ยนเกมส์ และ ซีเกมส์ อยู่แล้ว ก็เตรียมตัวที่จะเปิดตัวประเภทกีฬาใหม่ซึ่งก็คือ Submission Wrestling เข้าไปโดยจะนำเข้าไปทั้งในแบบ กิ และโนกิ โดยใช้กติกาพื้นฐานจาก IBJJF เช่นกัน

ส่วนทางฝั่ง BJJ เองก็มิได้น้อยหน้าโดยปัจจุบันได้เปิดตัว  Sport Jiu-Jitsu International Federation (SJJIF) ขึ้นเมื่อปี 2011 แต่กติกาได้มีการแก้ไขให้ต่างจาก IBJJF โดยตัดเอาแต้มขยัน (คะแนนแอดเวนเทจ) ซึ่งมักเป็นปัญหาออก ซึ่งในปัจจุบัน SJJIF นั้นได้รับความนิยมและมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในโซนเอเชียและอเมริกา เนื่องจากความเข้าใจง่ายและชัดเจนของกติกา นอกจากนั้น SJJIF ยังมีพิ้นฐานของความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับนักกีฬา BJJ มากที่สุด เพราะใช้ระบบสายเดียวกัน และยังมีสืบต้นสาย Lineage ของแต่ละสำนักด้วย ถ้ามองง่ายๆก็คือ เป็น IBJJF ที่แต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมเข้าสู่สปอร์ตแอ็คคอร์ทนั่นเอง

งานนี้ใครเป็นใครก็คงต้องมาติดตามดูกัน ว่าใครจะสามารถสานฝันของตัวเองไปได้ไกลที่สุด แต่ไม่ว่าใครจะได้เข้าไปอยู่ในโอลิมปิก ซีเกมส์ หรือเอเชี่ยนเกมส์ ผลประโยชน์ก็คงตกอยู่กับเหล่าผู้ฝึกสอนกีฬา BJJ อย่างแน่นอน คือมองยังไงอนาคตอาชีพนี้ก็สดในแน่นอน ใครคิดจะเริ่มเล่นก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเรียนรู้นะครับ

Comment