FITNESS & LIFESTYLE

ฝึกสมาธิให้เด็กๆ ด้วยศิลปะการต่อสู้

19.06.2019

ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสการออกกำลังกายกำลังมาแรงรวมไปถึงพ่อแม่ที่อยากปลูกฝังให้ลูกๆ เป็นเด็กรักกีฬาหนึ่งในนั้นก็มีศิลปะการต่อสู้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งกำลังเป็นที่สนใจอยู่ไม่น้อยเพราะสามารถฝึกให้เด็กๆ เข้มแข็ง ปกป้องตัวเองได้ และที่สำคัญศิลปะการต่อสู้ยังช่วยฝึกสมาธิให้เด็กในวัยเรียนได้ดีอีกด้วย

ทำไมถึงต้องเลือกเรียนศิลปะการต่อสู้ที่หลายๆ คนมองว่ารุนแรง
จริงอยู่ว่าศิลปะการต่อสู้นั้นมักจะมีความรุนแรงแฝงอยู่ แต่แก่นแท้ของการเรียนศิลปะการต่อสู้นั้น อาจารย์ทุกสำนักจะพร่ำสอนลูกศิษย์อยู่เสมอว่า ให้รู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตน สอนให้เด็กมีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่ใช้ความรุนแรงไปในทางที่ผิด ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ดีว่า การเรียนศิลปะการต่อสู้ช่วยหล่อหลอมเด็กๆ ให้รู้จักอ่อนน้อม มีเมตตาต่อผู้ที่ด้อยกว่า ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เป็นการฝึกเพื่อให้เด็กๆ ไปท้าต่อยตีกับใคร เพียงแต่ฝึกฝนเพื่อที่ให้เด็กๆ รู้ว่าศักยภาพของตนเองสามารถไปถึงได้แค่ไหน

ช่วยฝึกสมาธิ ส่งเสริมการเรียนรู้
การเรียนศิลปะการต่อสู้สามารถช่วยฝึกสมาธิให้เด็กๆ ได้ เพราะศิลปะการต่อสู้มักแฝงไปด้วยท่าทางต่างๆ ที่สวยงามอ่อนช้อย และเด็กๆ ต้องใช้สมาธิในการจดจำในการฝึกฝน จากการศึกษาวิจัยเป็นที่ยอมรับกันว่า ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้เป็นประจำ จะทำให้มีสมาธิดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะ ฮอร์โมน Endorphins หลั่งออกมา และ ฮอร์โมนความเครียด Adrenaline ที่ต่อมหมวกไตก็จะหยุดการหลั่ง ช่วยทำให้เด็กมีสมาธิในการเรียน และมีความทรงความจำดีขึ้น

เสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง
การออกกำลังกายย่อมส่งผลให้ร่างกายเกิดความแข็งแรงอยู่แล้ว เมื่อเด็กๆ ได้ออกกำลังกาย เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ที่มีการเตะ ต่อย ต้องมีการทรงตัว ทำให้เด็กๆ ได้ฝึกกล้ามเนื้อ พัฒนาไหวพริบและฝึกระเบียบวินัยในตัวเอง

ปลูกฝังศีลธรรม และมารยาทอันดีงาม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีศีลธรรมในหัวใจและมีมารยาที่ดีงามเป็นพื้นฐานสำคัญที่เด็กๆ ทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้และได้รับการปลูกฝังอย่างถูกต้อง ซึ่งในการเรียนศิลปะการต่อสู้ก็จะสอนให้เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีมารยาทที่ดีงาม มีน้ำใจนักกีฬา ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่ความรุนแรงแต่เป็นการฝึกให้เด็กๆ รู้จักศักยภาพของตนเอง อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ

Comment